แป้งในถุงมือ – มิตรหรือศัตรู

ถุงมือแพทย์ชนิดมีแป้งถุงมือแพทย์แบบมีแป้ง มีจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด ซึ่งแต่ละผู้ผลิตก็มีกรรมวิธีไม่แตกต่างกันมากนัก แต่บทความนี้ผมเขียนเพื่อช่วยไขข้อข้องใจว่า แป้งในถุงมือ เป็นอย่างไร มีหน้าที่อะไร มีประโยชน์และโทษอย่างไร ส่วนเราควรใช้หรือไม่ ก็ขอให้อยู่ที่ท่านผู้อ่านพิจารณาเองครับ

(สงวนลิขสิทธิ์ บทความนะครับ – ถ้าใครต้องการ ให้ Email มาขอครับ)

ถุงมือชนิดมีแป้งซื่งพบเห็นอยู่ทั่วไป และเป็นสิ่งที่เราท่านๆ ที่ปฎิบัติการในห้องแลป ใช้อยู่เป็นประจำ (แม้ว่าในปัจจุบันถุงมือแบบไม่มีแป้ง มีบทบาทและมีผู้ใช้มากขึ้นก็ตาม และตลาดส่วนใหญ่ในบ้านเรา ยังเป็นถุงมือแบบมีแป้งอยู่) จริงอยู่ครับที่ถุงมือไม่มีแป้งออกมาทีหลัง และเป็นถุงมือที่ “มีเกรด” ดีกว่าถุงมือแบบมีแป้ง แต่เราๆก็คุ้นเคยถุงมือแบบมีแป้งมานานนับสิบปี ถุงมือมีแป้งมีข้อดีคือสวมใส่ง่าย (กว่าถุงมือไม่มีแป้ง) และยังสวมได้นานกว่า แป้งจะดูดซับเหงื่อที่มือ ทำให้เรารู้สึกว่าใส่แล้วไม่รำคาญ

บทบาทของแป้งในถุงมือแพทย์

เรามักเข้าใจเอาว่า ผงในถุงมือเป็นลักษณะคล้ายแป้งทาตัว แต่ในความเป็นจริง ผงในถุงมือเป็น สารที่ช่วยให้ลื่นในการสวมใส่ (USP Absorbable Dusting Powder) ประกอบด้วยแป้งข้าวโพด ที่ปรับลดแมกนีเซียมออกไซด์ ให้น้อยกว่า 2% เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแครกกิ้ง และอาจมีการเติม ฟอสฟอรัสออกซีคลอไรด์ (หรือ epichorhydrin) ผงแป้งละลายในขณะฆ่าเชื้อ รวทั้งไม่ให้ละลายไปกับเหงื่อขณะใช้งาน (จริงๆมีข้อกำหนดว่า ผงแป้งจะสามารถทน ต่อน้ำเดือดได้ 20 นาที โดยไม่ละลาย)

ผงแป้ง ในถุงมือมีแป้ง โดยปกติจะใช้เพื่ออำนวยความสะดวกสวมใส่ บางผงแป้งที่ควรจะอยู่ด้านในอาจหลุดลอดออกมาด้านนอกคุณสมบัติดูดซึมสูงของผงทำให้เหมาะสำหรับการสวมใส่ถุงมือ เมื่อมือของผู้สวมชื้น
ผงของถุงมือในถุงมือแพทย์ชนิดมีแป้ง มีผลกระทบต่อการทำงานในห้องปฏิบัติการหรือไม่?

ผงแป้งถึงตอนนี้เราได้ทราบกันแล้วว่า ผงในถุงมือสามารถดูดซับน้ำได้ ซึ่ง หมายความว่าในระหว่างกระบวนการผลิตถุงมือ, ผงแป้งอาจดึงดูดสารเคมี จุลินทรีย์ โปรตีนจากน้ำยางธรรมชาติ, ซิลิโคน เป็นต้น เมื่อผู้ใช้สวมถุงมือ สารดังกล่าวที่อยู่ในผงแป้ง(ที่ถูกดูซึมในระหว่างการผลิต) จะการสัมผัสโดยตรงกับผิวของผู้ใช้ และคุณสมบัติการดูดซับนี้ อาจไปดูดซับ ไขมันและความชื้นตามธรรมชาติออกจากมือ ทำให้มือมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ผงแป้งยังอาจฟุ้งกระจาย และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทางจมูกคอและทางเดินหายใจ และผงถุงมือที่มีสภาวะเป็นเบส อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายอีกด้วย

ถ้าจะให้ผมพูดอย่างเวอร์ๆ นะครับว่าสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดที่ ผงแป้งในถุงมือก่อให้เกิดอันตรายได้ก็เช่น ทำให้เซลของผิวหนังเปิด (skin cracking) สารต่างๆเข้าสู่ผิวหนัง เกิดอาการแพ้ (ในบางคน) และคนที่แพ้น้ำยาง (โปรตีนจากน้ำยาง) ก็จะอาจเกิดการแพ้ คัน หอบหืด ช๊อค (ในบางคนเท่านั้นนะครับ) นอกจากนี้ ความสามารถในการดูดซับของผงแป้ง อาจไปดูดซับจุลินทรีย์จากสภาพแวดล้อมในห้องทำงาน ซึ่งแม้ส่วนมาก จะเป็นจุลลินทรีย็ที่ไม่เป็นพิษก็ตาม

แม้ว่าถุงมือแพทย์ไม่มีแป้ง ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ผู้ใช้ในห้องปฎิบัติการ อาจจะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามือมีบาดแผล) ผงแป้งที่ปนเปิ้อนจุลินทรีย์ มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการติดเชื้อกว่าการสัมผัสกับจุลินทรีย์เพียงอย่างเดียว

ผงแป้งที่อาจปนเปื้อนจุลลินทรีย์ แม้ว่าจะอยู่ด้านในของถุงมือ ก็อาจออกมาสู่ด้านนอกของถุงมือได้ เช่น รูรั่ว รอยฉีกขาด หรือถุงมือใช้แล้วที่ทิ้งกัยเกลื่อนกลาด ก็มีโอกาสที่แป้งปนเปื้อนจะออกสู่สิ่งแวดล้อมได้

 

เรียบเรียงโดย Siamglove.com

Similar Posts

  • ถุงมือแพทย์ : ชนิดใช้แล้วทิ้ง เอาไปใช้อะไร

    ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบสำคัญหลักในการผลิตถุงมือแพทย์ชนิดใช้แล้วท้ิง โดยสามารถนำไปผลิตถุงมือแพทย์มีแป้ง และถุงมือแพทย์ไม่มีแป้ง และส่วนผสมวัตถุดิบอืนของถุงมือแพทย์จะทำมาจากวัสดุธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสารเคมีอื่นๆที่ผสมลงไป เพื่อให้ได้ถุงมือแพทย์หรือถุงมือยางมา ถุงมือยางธรรมชาติชนิดใช้แล้วทิ้งนี้ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1894 หรือ พ.ศ. 2437 (100 ปีก่อน) และ W.S. Halsted เป็นนายแพทย์ชาวอเมริกันคนแรกที่สวมถุงมือแพทย์ชนิดฆ่าเชื้อเพื่อรักษาคนไข้

  • ถุงมือผ้า : รู้จักถุงมือผ้าต่างๆ กันเถอะ

    ในโรงงาน โรงพยาบาล ถุงมือถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ทำงานที่ต้องการป้องกันมือของเราที่ต้องหยิบจับสิ่งของต่างๆ ไม่ไห้มีสิ่งสกปรกติดมือ หรือ ไม่ให้สิ่งสกปรกจากมือ เช่นเหงื่อ เชื้อโรค ไปติดคนอื่นจากการสัมผัส ตลอดจนถุงมือยังช่วยป้องกันมือจากอันตรายของสารเคมี ความร้อนจากวัตถุที่ต้องหยิบจับนั้นๆด้วย ดังนั้นถุงมือถือเป็นเครื่องป้องกันมือนั่นเองครับ ปัจจุบันถุงมือมีอยู่มีอยู่หลากหลายอย่าง สามารถแบ่งแยกออกตามชนิดของวัสดุที่ใช้ทำ หรือลักษณะงานที่นำไปใช้ เช่น ถุงมือแพทย์ ถุงมือไนไตร ถุงมือยาง ถุงมือป้องกันความร้อน เป็นต้น และนอกจากประโยชน์ที่กล่าวมาแล้ว ถุงมือสารพัดประโยชน์คงหนีไม่พ้นถุงมือผ้าดิบที่สามารถเป็นเครื่องป้องกันมือ และช่วยให้การหยิบจับสิ่งของนั้นกระชับมากขึ้นด้วยครับ ถุงมือผ้าดิบ หรือ ถุงมือผ้าทอ ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานหยิบจับทั่วไป ทั้งงานเบาและงานหนัก ไม่เหมาะใช้งานหนักที่มีอุณหภูมิสูง และไม่สามารถป้องกันสารเคมี ตลอดจนของเหลว ต่างๆได้ ซึ่งต่างจากถุงมือแพทย์ที่เหมาะกับการใช้ในงานเบาๆ งานละเอียด และถุงมือไนไตรที่เหมาะกับงานหนักขึ้นมาหน่อย (และถุงมือทั้งสองต่างก็กันของเหลวได้ครับ) ดังนั้นการเลือกใช้งานจะต้องใช้ถุงมือให้ถูกประเภทด้วยนะครับ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาถุงมือผ้าเพื่อนำไปใช้งาน เราจะพบว่ามีถุงมือหบายแบบโดย เรามีวิธีการเลือกซื้อถุงมือมาให้ท่านลองพิจารณาดูกันครับ

  • ถุงมือแพทย์: อาการแพ้ถุงมือแพทย์

    ถุงมือยางธรรมชาติ อาจก่อให้เกิดการแพ้โปรตีนในน้ำยาง หรือแพ้แป้ง โดยมีอาการแต่ต่างกันตามภูมิคุ้มกันของร่างกาย บทความนี้จะกล่าวถึงอาการแพ้ต่างๆ

  • ถุงมือชนิดมีแป้งต่างจากชนิดไม่มีแป้งอย่างไร

    ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ หรือถุงมือยางตรวจโรค นั้นในท้องตลาด แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง  และ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง  ซึ่งดูเผินๆแล้วคล้ายกันมาก เพราะ ออกสีขาวๆ เหมือนกัน แต่ทั้งสองแบบ มีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน ทั้งองค์ประกอบ, การใช้งาน และราคา และในบทความนี้เราจะมารู้จักถุงมือทั้ง 2 ชนิดกันครับ

  • ถุงมือไนไตร : ทนสารเคมีได้ดีกว่า

    ถุงมือไนไตร : ทนสารเคมีอะไรได้บ้าง หากท่านผู้อ่านได้ติดตามบทความของทางเวป siamglove.com มาโดยสม่ำเสมอ จะทราบว่าถุงมือไนไตรจะมีข้อแตกต่างจากถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติหลายๆด้านเช่น เหนียวกว่า แข็งแรงกว่า ทนทานกว่า ป้องกันการแพ้ได้ดีกว่าเป็นต้น แต่โดยหลักๆแล้ว เรามักจะใช้ถุงมือไนไตร เพื่อป้องกันการอาการแพ้ และจำเป็นต้องใช้งานที่ต้องสัมผัสสารเคมี กรด เบส แอลกอฮอล์ น้ำมัน ไขมันต่างๆ ทางเวปได้เคยเขียนบทความถึงข้อจำกัดของถุงมือยางธรรมชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โปรตีนที่อยู่ในยางธรรมชาติ อาจก่อให้เกิดการแพ้แก่ผู้สวมใส่บางคน ซึ่งโปรตีนนั้นในอาจสัมผัสร่างกายของผู้สวมใส่ได้ทั้งทางผิวหนังและทางระบบหายใจ หากผู้ที่มีอาการแพ้โปรตีนสวมใส่ ก็อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ในระดับต่างๆ ตามสภาพร่างกายของแต่ละคน ซึ่งมีตั้งแต่ เป็นผื่นแดง คัน เป็นตุ่ม จนถึงอาการหืดหอบ หรือช๊อกได้ นอกจากขจัดปัญหาเรื่องการแพ้ยางแล้ว ถุงมือไนไตร ยังทนต่อสารเคมีได้มากชนิดทั้งกรด เบส ไขมัน น้ำมันต่างๆ ซึ่งหากนำถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติไปสัมผัส อาจเกิดการละลายได้ (หากสารละลายนั้นเข้มข้นเกินไป)

  • การวัดและการทดสอบโปรตีนในถุงมือแพทย์ เพื่อป้องกันการแพ้โปรตีน

    ถุงมือยางธรรมชาติ จะประกอบไปด้วยโปรตีน และบางคนก็แพ้โปรตีน ทำให้เมื่อสวมถุงมือแล้วจะมีอาการ ตั้งแต่การแสบคัน เกิดผื่นแดง หรือเป็นลมพิษ ไปจนถึงอาการแพ้ขั้นรุนแรง ดังนั้นในกระบวนการผลิต จึงมีการควบคุมปริมาณโปรตีน ส่วนจะคุมอย่างไร ท่านสามารถอ่านได้จากบทความนี้ครับ