ถุงมือแพทย์: อาการแพ้ถุงมือแพทย์

ถุงมือแพทย์และถุงมือยาง ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากยางอื่นๆ จะผลิตจากยางธรรมชาติ ถุงมือแเพทย์เหล่านี้มักจะมีการเพิ่มผงแป้ง หรือเคลือบด้วยผงแป้ง เพื่อลดแรงเสียดทานใเช่นการสวมใส่ และแป้งเหล่านี้อาจจะก่อให้เกิดการแพ้ หรือทำปฎิกิริยากับผิวหนังของผู้สวมใส่ ส่วนจะแพ้มากหรือน้อย และแพ้แบบไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพหรือภูมิต้านทานของแต่ละคน เพราะสภาพร่างการจะต่อต้านสารแปลกปลอมในลัษณะที่แตกต่างกัน

Siamglove.com จำหน่ายถุงมือแพทย์ แบบทั้งมีแป้งและไม่มีแป้ง ซึ่งแป้งที่นำมาเคลือบถุงมือนั้นเป็นแป้งข้าวโพด ซึ่งผลิตจากวัสดุธรรมชาติ สามารถลดความเ สียดทานขณะสวมใส่ และแก้ปัญหาผู้ที่มีอาหารแพ้แป้งชนิดอื่น แต่สำหรับคนที่แพ้แป้งข้าวโพด ผมแนะนำให้ใช้แบบ Powder Free ไปเลยครับ เพราะไม่มีแป้งให้แพ้แน่นอน  และสำหรับคนที่มีอาการแพ้ยางธรรมชาติ (จริงๆคือแพ้โปรตีนจากยางธรรมชาติ) ผมแนะนำให้ใช้ถุงมือไนไตร ไปเลย เพราะไม่มีโปรตีนและแป้งให้แพ้อย่างแน่นอน

อาการแซึ่งแพ้ถุงมือแพทย์ที่เกิดขึ้น ที่ทาง siamglove พบบ่อยๆ มักจะมีอาการปรากฎขึ้นใน 3 กรณีต่างๆ ดังนี้ครับ

1) สภาพการแพ้แป้งที่เกิดมากที่สุด แต่มีอันตรายน้อยที่สุด คือ เกิดการระคายเคืองบริเวณมือ ที่สวมใส่ นั้นคือเมื่อน้ำยางจากถุงมือแพทย์ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ซึ่งการแพ้นี้ อาจเกิดได้ทั่วไป โดยไม่จำเป็นว่า ผู้ใช้มีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำกว่าปกติ สาเหตุของอาการระคายเคืองอาจเกิดจาก โปรตีนในยาง หรือสารเคมี ซึมเข้าสู่ร่างกาย บางครั้งอาการระคายเคืองอาจไม่ได้เกิดจากแป้งในถุงมือแพทย์เพียงอย่างเดียวก็ได้ครับ โดยอาจเกิดจากผู้สวมใส่ ล้างมือแล้วเช็ดไม่แห้งสนิท ก่อนสวมถุงมือแพทย์ หรือใช้สบู่ที่แรง ล้างก่อนสวมถุงมือ เมื่อสวมถุงมือแล้ว พวกความชื้นหรือสารเคมีที่ตกค้างอาจทำปฏิกิริยากับแป้งในถุงมือ เป็นต้น

2) อาการ แที่แพ้แบบที่สอง อาจเรียกว่าเ ป็นอาการแบบ Delayed Type Hypersensitivity หรือภาวะภูมิแพ้แบบช้า คือการเกิดภูมิแพ้แบบนี้เกิดช้า 48-72 ชั่วโมงหลังจากได้รับสารก่อการแพ้ อาการแพ้นี้นี้ยังอยู่ในพื้นที่จำกัด ไม่รุกลามไปส่วนอื่น เซลล์ที่เกี่ยวข้องคือ T- effector หรือ Tdth

3) พวกที่มีอาการแพ้ถุงมือแพทย์แบบที่สาม ซึ่งพบน้อยยยยย มากๆ โดยอาการแพ้เกิดขึ้นเกือบจะทันทีหรือครึ่งชั่วโมงหลังจากการสัมผัสกับยางธรรมชาติ ปฏิกิริยานี้เกิดจากการอิมมูโนแอนติบอดี E ที่มีอยู่ในโปรตีนที่พบในน้ำยางธรรมชาติ ผู้สวมใส่สามารถสัมผัสกับน้ำยางผ่านเส้นทางที่แตกต่างกันเช่นผิวหนัง, เยื่อเมือก (จมูก, ปาก), สเปรย์ (สูดดม) หรือหลอดเลือด (เลือด) อาการอาจมีตั้งแต่กรณีไม่ร้ายแรง ไล่ไปจนถึง จมูกอักเสบ ตาแดง หรือลมพิษ ตลอดจนหอบหืด และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

จะเ ห็นได้ว่า การใช้ถุงมือแพทย์ ไม่เพียงแต่โปรตีนในน้ำยางเท่านั้นที่มีผลต่อการแพ้  แป้งที่เข้าคลือบที่ถุงมือ (เพื่อลดแรงเสียดทาน อันเกิดจากการสวมใส่) ก็มีผลด้วยเช่นกัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผิวหนังชื้น) การเลือกใช้ถุงมือแพทย์ หรือถุงมือยางจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ให้คำปรึกษาเรื่องการใช้ถุงมือแพทย์ สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาครับ

เรียบเรียงโดย Siamglove.com

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย: ห้ามคัดลอก ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมด โดยจะดำเนินคดีตามกฏหมายที่บัญญัติไว้สูงสุด

Similar Posts

  • ถุงมือไนไตร: ดีอย่างไร ต่างจากถุงมือยางธรรมชาติอย่างไร

    ถุงมือไนไตรทำมาจากยางสังเคราะห์ (synthetic latex) โดยถุงมือไนไตรใช้เพื่อป้องกันของมีคมบาดมือหรือนิ้ว เนื่องจากถุงมือไนไตรมีความเหนียว ทนต่อของมีคมเป็นพิเศษและทนต่อการขาด โดยเฉพาะอย่ายิ่งเมื่อเปลี่ยบเทียบกับถุงมือแมีพทย์มีแป้งและไม่มีแป้งก็ตาม ถุงมือไนไตรสีฟ้า สีม่วงหรือไม่ว่าสีใดๆ จะมีความทนทานมากกว่า 3 เท่าโดยเฉลี่ยในแง่ของทั้งทนต่อของมีคม และหรือสารละลาย หรือสารเคมีอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับถุงมือยางธรรมชาติแล้ว ถุงมือไนไตรค่อนข้างลื่นกว่าสามารถสวมใส่ได้ง่ายกว่าถุงมือยางธรรมชาติ นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ถุงมือไนไตรเป็นที่นิยมมากกว่าถุงมือไวนิล และถุงมือยางธรรมชาติ ยิ่งกว่านั้นถุงมือไนไตรยังมีคุณสมบัติทนต่อสารเคมี จำพวกสารละลาย อย่างไรก็ตามครับ เมื่อท่านจะซื้อถุงมือไนไตร สิ่งที่ควรทราบสำหรับถุงมือนี้มีหลายข้อดังนี้

  • Download

    Downloade Page                    ท่านสามารถ Download สเปกสินค้าต่างๆ และ MSDS (Material Safety Data sheet) ได้ที่นี่

  • ถุงมือไนไตรกับกระบวนการแปรรูปสุกร

    สุกร (swine) ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญมากในประเทศไทย ชาวไทยบริโภคสุกรเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังมีปริมาณมากพอที่จะส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้แก่กระเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย และการส่งออกสุกรนั้น สร้างรายได้ให้กับผู้เกี่ยวข้องในส่วนต่างๆของ ห่วงโซ่อุปทานนี้ไม่น้อยในแต่ละปี ตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จนถึงผู้ค้าปลีกเนื้อสุกรในตลาด รวมถึงผู้ค้าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคสุกรและการเลี้ยงสุกรอีกด้วย ทั้งนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานอีกประเภทที่เราจะขาดเสียไม่ได้เลย ก็คือผู้ชำแหลและแปรรูปสุกร ซึ่งหากปราศจากขั้นตอนนี้แล้ว เราคงจะไม่มีเนื้อหรือส่วนต่างๆเอาไว้บริโภคเป็นแน่ และกระบวนการนี้มีความซับซ้อนมากกว่าการฆ่าและชำแหละเป็นชิ้นๆ การชำแหละและแปรรูปสุกรที่ถูกต้อง จะต้องคำนึงถึงสุขอนามัยของผู้บริโภคและธรรมาภิบาลในการดูแลสัตว์อย่างถูกต้องตามหลักการและมาตรฐานอื่นๆที่จำเป็นอีกด้วย ปัจจุบันมีโรงงานผลิตและแปรรูปสุกรจำนวนมากกระจายอยู่ตามภาคต่างๆ โดยหลักการแล้วเราอาจสงสัยว่าโรงงานหรือกระบวนการแปรรูปสุกรที่มีคุณภาพนั้นเป็นอย่างไร กระบวนการแปรรูปสุกร ก่อนที่เราจะนำสุกรมาผ่านการแปรรูป เราต้องควบคุมคุณภาพเนื้อสุกรตั้งแต่เริ่มต้น ต้องเริ่มตั้งแต่การผสมพันธุ์ โดยในปัจจุบันจะใช้การผสมเทียม ฉีดน้ำเชื้อเข้าไปที่ตัวแม่พันธุ์ และรอจนกระทั่งแม่สุกรคลอดลูกสุกรออกมา ในคราวหนึ่งจะคลอดประมาณ 10 ตัว หลังจากที่ลูกสุกรอยู่กับแม่สุกรไประยะหนึ่ง ก็จะแยกตัวลูกออกมาเลี้ยงในโรงอนุบาลลูกสุกรต่างหาก จนลูกสุกรเติบโตได้ขนาดที่เหมาะสมแล้ว ก็จะส่งไปโรงขุนเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ได้น้ำหนักที่ต้องการ เมื่อได้น้ำหนักที่ต้องการแล้ว ซึ่งปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณตัวละ 100 กิโลกรัม ก็จะทำการขายสุกรนั้นออกไปให้แก่โรงชำแหละ

  • คุณภาพยางแผ่นดิบ

    ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ คืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งผลิตขึ้นเพื่อป้องกัน หรือลดความอันตรายจากการใช้มือสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ โดยป้องกันอันตรายมือเรากับสิ่งของหรือป้องกันสิ่งของจากมือของเรา

  • ถุงมือแพทย์ ถุงมือไนไตร ถุงมือไวนิล: อย่างไหนดีกว่ากัน

    ถงมือตรวจโรค ชนิดถุงมือใช้แล้วทิ้งทุกวันนี้ มีอยู่หลายประเภท แต่ที่เราพบบ่อยๆและมีลักษณะคล้ายๆกันก็จะเป็น ถุงมือยางชนิดถุงมือแพทย์ (ทั้งแบบมีแป้งและไม่มีแป้ง) ถุงมือไนไตร และถุงมือไวนิล นอกจากนี้คุณสมบัติก็คล้ายกันมาก จนแทบจะใช้งานแทนกันได้ในหลายๆฟังก์ชั่น จนบางทีผู้ใช้เองก็งง เพราะไม่รู้ว่าจะใช้แบบไหนดี ในบทความชิ้นนี้ ผู้เขียนเอง ก็คงไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่สามารถให้แนวทางคร่าวๆในการเปรียบเทียบได้ครับว่าเราควรจะเลือกใช้ถุงมือชนิดไหนในงานของเรา หรือสมบัติของถุงมือถุงมือชนิดไหนเหมาะกับเราที่สุด….

  • ถุงมือชนิดมีแป้งต่างจากชนิดไม่มีแป้งอย่างไร

    ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ หรือถุงมือยางตรวจโรค นั้นในท้องตลาด แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง  และ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง  ซึ่งดูเผินๆแล้วคล้ายกันมาก เพราะ ออกสีขาวๆ เหมือนกัน แต่ทั้งสองแบบ มีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน ทั้งองค์ประกอบ, การใช้งาน และราคา และในบทความนี้เราจะมารู้จักถุงมือทั้ง 2 ชนิดกันครับ