ถุงมือไนไตร : คืออะไร? เมื่อไหร่ควรใช้?

ถุงมือไนไตร ประวัติและที่มา

เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินถุงมือไนไตรมาบ้างนะครับ แม้ว่าบางท่านอาจไม่รู้จักมันเลย และเรียกชื่อผิดๆ เป็น ถุงมือไนโตร เพราะบ่อยครั้งมีบางท่านโทรมาถามว่า มีถุงมือไนโตร จำหน่ายหรือไม่ ก็คงไม่แปลกหากท่าน เรียกชื่อมันผิดๆถูกๆ เพราะเราไม่รู้คุ้นกับมันเท่าไหร่ เพราะถ้าเราพูดถึงถุงมือตรวจโรคชนิดใช้แล้วทิ้ง เกือบจะทุกท่านจะนึกถึงถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ เพราะเหตุผลหลายๆประการเช่น

  • บ้านเราผลิตยางธรรมชาติได้มาก เราจึงคุ้นเคยกับยางธรรมชาติมากกว่ายางสังเคราะห์
  • ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ มีมานานกว่า เราจึงรู้จักถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติได้ดีกว่า
  • ถุงมือยางธรรมชาติ มีราคาถูกกว่า จึงมีใช้กันมากกว่า ไปที่ไหนก็เห็น เราจึงคุ้นเคยกับมันมากกว่า

ถุงมือไนไตรเริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1980 (ราวปี พ.ศ. 2523) โดย นายนิล ทีลลีสัน (Neil Tillitson) และ นายลุค เดอร์เบกเกอร์ (Luc DeBecker) ต่อมาในปี 1990 ได้มีการพัฒนาเทคนิดและกระบวนการผลิต และมีการจดสิทธิบัตรในปี 1991

Right002

ถุงมือไนไตรทำมาจากอะไร

ถุงมือไนไตร ทำมาจากยางสังเคราะห์ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Buna-N, Perbunan, หรือ NBR โดยมีสูตรโครงสร้างดังรูป โดย NBR เป็นโคโพลิเมอร์ของ อะไซโลไนไตร acrylonitrile (ACN) กับ บิวทาไดอีน Butadiene ซึ่งคุณสมบัติของ อะไซโลไนไตร จะช่วยทำให้ยางสังเคราะห์นั้น ทนสารละลายมีขั้ว เช่น กรด, เบส, แอลกอฮอล์,น้ำมัน ไขมัน ตลอดจน สารไฮโดรคาร์บอนต่างๆ ส่วนบิวทาไดอีน จะทำให้ยางมีความยืดหยุ่นคล้ายยางธรรมชาติ

ในกระบวนการผลิตถุงมือไนไตร นอกจาก NBR แล้ว ยังมีสารอื่นๆผสมอีกครับ โดยเราจะเอา อิมัลซิฟายเออร์ Emulsifier, โพรเพนไนไตร (propenenitrile), monomer ของ บิวทาไดอีน (Butadiene), ตัวแอกติเวเตอร์ และสารเร่งปฏิกิริยา ใส่ผสมกันใน Vessels ที่มีอุณหภูมิ 30-40 องศา ในกระบวนการนี้ จะใส่น้ำลงไปเพื่อเป็นตัว reaction medium ใน ถัง Vessels และ ปฏิกิริยาภายในถังจะเป็น

1,3-butadiene + 1,3-butadiene + 2-propenenitrile + 1,3-butadiene + 1,2-butadiene → nitrile butadiene rubber

ซึ่งเราก็จะได้ NBR ออกมา ซึ่งอันนี้เป็นกระบวนการผลิตคร่าวๆนะครับ ทางเวป Siamglove.com ขอไม่อธิบายมากกว่านี้ เดี๋ยวมันจะวิชาการเกินไปครับ โดยหลังจากนี้เราจะนำเอา ยางไนไตรบิวทาไดอีน มาขึ้นรูปเป็ถุงมือไนไตรที่เราใช้กันอยู่

ถุงมือไนไตรดีกว่าถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติอย่างไร

ก่อนจะบอกว่าถุงมือไนไตรมีอะไรบ้างที่ดีกว่าถุงมือแพทย์ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ถุงมือไนไตรผลิตจากยางสังเคราะห์ไนไตรบิวทาไดอีน ในขณะที่ถุงมือแพทย์ผลิตมาจากยางพารา ดังนั้นเราต้องรู้ว่าคุณสมบัติของยางพาราต่างจากยางไนไตรบิวทาไดอีนอย่างไร

  1. ยางไนไตรบิวทาไดอีนมี acrylonitrile ผสมอยู่ จึงทำให้ถุงมือไนไตร ทนสารเคมีได้ดีกว่า สารเคมีที่ว่า มีทั้งสารพิษ กรด เบส ไขมันสัตว์ น้ำมันต่างๆ ตลอดจนสารไฮโดรคาร์บอนต่างๆทั้ง โอโซน คีโตน เอสเทอร์ และสารอะโรมาติกต่างๆ ท่านสามารถดูรายละเอียดเรื่องการทนสารเคมีของถุงมือไนไตรได้ดังนี้ (คลิ๊ก)
  2. ยางไนไตรบิวทาไดอีนมี Butadiene ผสมอยู่ จึงทำให้ถุงมือไนไตรมีความยืดหยุ่น คล้ายถุงมือยางธรรมชาติ (แม้ว่าจะยืดหยุ่นได้ไม่เท่ากับถุงมือยางธรรมชาติ) ทำให้ถุงมือไนไตรสามารถใช้งานทดแทนถุงมือจากยางธรรมชาติ ในบางประเภท (โดยเฉพาะงานที่ไม่ต้องการความยืดหยุ่นมากนัก)
  3. ยางไนไตรบิวทาไดอีนมี Carboxylic acid ผสมอยู่ จึงทำให้ถุงมือไนไตรมีคุณสมบัติ ทนทาน แข็งแรง จึงทนต่อการฉีกขาด การเจาะทะลุได้ดีกว่าถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติมาก (ราวๆ 3 เท่า ที่ความหนาเท่ากัน)
  4. เนื่องจากถุงมือไนไตรเป็นยางสังเคราะห์ จึงมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงช่วงอุณหภูมิที่กว้างกว่าถุงมือยางธรรมชาติ โดยสามารถทนอุณหภูมิในช่วงตั้งแต่ −40 °C ถึง +108 °C
  5. ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ มีโปรตีนจากยางธรรมชาติผสมอยู่ และอาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้แก่ผู้สวมใส่ได้ (ถ้าผู้สวมใส่มีอาการแพ้โปรตีนจากยางธรรมชาติมาก่อน) แต่ถุงมือไนไตรไม่มีโปรตีนผสม ผู้ที่มีอาการแพ้ยางธรรมชาติจึงสามารถใส่ทำงานได้ ท่านสามารถอ่านเรื่องการแพ้ยางธรรมชาติได้จากบทความนี้ครั (คลิ๊ก)
  6. ถุงมือไนไตรที่จำหน่ายในบ้านเรา มีทั้งชนิดมีแป้งและไม่มีแป้ง หากผู้สวมใส่มีอาการแพ้แป้ง ก็สามารถเลือกใส่ถุงมือไนไตรแบบไม่มีแป้งได้ เพราะไม่ก่อให้เกิดการแพ้แป้ง (Siamglove.com จำหน่ายเฉพาะถุงมือไนไตรชนิดไม่มีแป้งนะครับ)
  7. ถุงมือไนไตร มีความทนทาน ทนต่ออุหภูมิสูงๆได้ดีกว่า ดังนั้นอายุการเก็บรักษา และอายุการใช้งานจะนานกว่าถุงมือแพทย์ตรวจโรค
  8. โรงงานผลิตถุงมือไนไตร มีการผลิตไนไตรหลายสี ทั้ง ขาว ฟ้า ม่วง ดำ เขียว ซึ่งแต่ละสีก็เหมาะกับงานแต่ละประเภท จึงเป็นถุงมือที่เหมาะที่จะใช้ในหลายๆอุตสาหกรรมจริงๆ (ดูรายละเอียดด้านล่าง)

ถุงมือไนไตรมีอะไรด้อยกว่าถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ

ดูเหมือนว่าถุงมือไนไตรเป็นถุงมืออเนกประสงค์จริงๆ อะไรๆช่างดีไปหมด แต่ถ้าถุงมือไนไตรดีกว่าถุงมือแพทย์ในทุกด้านแล้วถุงมือแพทย์ก้ไม่น่าจะมีคนใช้แล้ว จริงไหมครับ แต่ในความเป็นจริงถุงมือไนไตรมีข้อจำกัดบางอย่างซึ่งไม่สามารถทดแทนถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติได้ครับ โดยข้อด้อยของถุงมือไนไตรมีดังนี้

  1. ถุงมือไนไตรจะยืดหยุ่นน้อยกว่า เวลาสวมใส่จะไม่ค่อยกระชับมือเท่ากับถุงมือแพทย์ มักจะหลุดมือบ่อย
  2. ถุงมือไนไตรมีความแข็งมากกว่าถุงมือแพทย์ เวลาใส่ทำงานจะรู้สึกเมื่อยมือ เมื่อยนิ้วมากกว่า
  3. จากข้อ 1 และข้อ 2 ดังกล่าว เราจึงต้องเลือกถุงมือที่ค่อนข้างพอดีกับมือของเรา ถ้าเราถุงมือนั้นเล็กกว่ามือเรา จะบีบรัดมือเราจนล้าได้ง่าย และถ้าถุงมือใหญ่กว่ามือเราก็จะลื่นหลุดขณะทำงานได้ง่าย การเลือกสวมถุงมือไนไตรจึงประสบปัญหาดังกล่าวพอควร แต่สำหรับถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติแล้ว กรณีนี้ไม่มีปัญหา เพราะถุงมือยืดออกไปได้มากอยู่แล้ว
  4. ถุงมือไนไตรราคาแพงกว่าถุงมือแพทย์ (ที่ความหนาเท่ากัน) เนื่องจากถุงมือแพทย์ทำจากยางธรรมชาติจึงมีราคาถูกกว่า

ถุงมือไนไตรเหมาะกับใคร และใครควรจะใช้ถุงมือไนไตร

ด้วยคุณสมบัติข้างต้นถุงมือไนไตรจึงเริ่มแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ และนับวันถุงมือชนิดนี้ก็จะถูกใช้ในอุตสาหกรรมใหม่ๆตลอด ในหัวข้อนี้ หากจะเขียนจริงๆคงเขียนเท่าไหร่ก็ไม่หมด และคงต้องเขียนอัพเดทตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ทางเวป Siamglove จะขอเขียนเพื่อเป็นแนวทางดังนี้ครับ (คลิ๊กอ่านรายละเอียดแต่ละหัวข้อได้เลยครับ)

  • อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เพราะต้องสมผัสน้ำมันพืช และไขมันต่างๆ
  • อุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะต้องสมผัสน้ำมันต่างๆ
  • อุตสากรรมเครื่องจักร โรงกลึง โรงเหล็ก
  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิก เพราะต้องสัมผัสสารเคมี จำนวนมาก (อ่านรายละเอียด..)
  • อุตสาหกรรมปิโตเลี่ยม เพราะต้องสัมผัสสารพวกไฮโรคาร์บอนต่างๆ
  • อุตสาหกรรมห้องเย็น อาหารทะเล เพราะต้องมีการเก็บอาหารไว้ที่อุณหภูมิต่ำ(อ่านรายละเอียด..)
  • อุตสาหกรรมเกษตร เพราะต้องสัมผัสสารพิษจำพวกยาฆ่าแมลง
  • อุตสาหกรรมยา เพราะต้องสัมผัสสารพิษต่างๆ
  • โรงฆ่าสัตว์ และ ชำแหละเนื่้อสัตว์เพราะต้องสมผัสน้ำมันจากสัตว์ และ ต้องมีการเก็บอาหารไว้ที่อุณหภูมิต่ำ (อ่านรายละเอียด…)
  • คลีนิค หมอฟัน พยาบาล เพราะต้องสัมผัส เลือด น้ำเหลืองต่างๆ
  • ห้องแลปต่าง เพราะต้องสัมผัสสารเคมี จำนวนมาก
  • ห้องคลีนรูปต่างๆ
  • สถานที่ สัก tattoo
  • และอื่นๆอีกมาก

เชื่อว่าหากท่านผู้อ่าน ได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ท่านคงพอจะรู้จักกับถุงมือไนไตรคร่าวๆแล้วนะครับ อย่าลืมนะครับ หากท่านอยากได้ตัวอย่าง หรือกำลังอยากได้ถุงมือไนไตรราคาถูก ท่านสามารถติดต่อ Siamglove.com ได้เลยนะครับ ทางเวปมีถุงมือไนไตรราคาปลีก และถุงมือไนไตรราคาส่งจำหน่ายครับ

Similar Posts

  • ถุงมือแพทย์ ถุงมือไนไตร ถุงมือไวนิล: อย่างไหนดีกว่ากัน

    ถงมือตรวจโรค ชนิดถุงมือใช้แล้วทิ้งทุกวันนี้ มีอยู่หลายประเภท แต่ที่เราพบบ่อยๆและมีลักษณะคล้ายๆกันก็จะเป็น ถุงมือยางชนิดถุงมือแพทย์ (ทั้งแบบมีแป้งและไม่มีแป้ง) ถุงมือไนไตร และถุงมือไวนิล นอกจากนี้คุณสมบัติก็คล้ายกันมาก จนแทบจะใช้งานแทนกันได้ในหลายๆฟังก์ชั่น จนบางทีผู้ใช้เองก็งง เพราะไม่รู้ว่าจะใช้แบบไหนดี ในบทความชิ้นนี้ ผู้เขียนเอง ก็คงไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่สามารถให้แนวทางคร่าวๆในการเปรียบเทียบได้ครับว่าเราควรจะเลือกใช้ถุงมือชนิดไหนในงานของเรา หรือสมบัติของถุงมือถุงมือชนิดไหนเหมาะกับเราที่สุด….

  • แพ้ยาง! หากแพ้ถุงมือยาง ควรทำอย่างไร

    ถุงมือแพทย์ถุงมือแพทย์ที่ใช้ หากแพ้ยางจากถุงมือต้องทำอย่างไร? ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาตินั้น ได้มาจากต้นยางพารา ซึ่งเดิมจะเป็นน้ำยางมีลักษณะเป็นนของเหลวขุ่นข้น แล้วผ่านกระบวนการผลิตจนเป็นถุงมือยางชนิดถุงมือแพทย์ ซึ่งในบางครั้งอาจเกิดปัญหาเรื่องการแพ้ยางกับผู้สวมใส่ อันที่จริงไม่ได้เกิดจากยางหรอกครับ แต่ปัญหาเรื่องการแพ้ยางจะเกิดเพราะโปรตีนที่อยู่ในยางธรรมชาติมากกว่า ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา โปรตีนจากยางธรรมชาติซึ่งใช้ในการผลิต ถุงมือยาง ถุงยาง ลูกโป่ง หนังยาง ยางลบ และของเล่น ได้สร้างปัญหาแก่ผู้สวมใส่ที่มีอาการแพ้ จวบจนกระทั่งในปี 1990 ได้มีกาคิดค้นยางสังเคราะห์ หรือยางธรรมชาติแบบชนิดไม่มีแป้งขึ้นมาได้ ทำให้ปัญหาเรื่องการแพ้แป้งลดลงไปอย่างมาก

  • คุณภาพยางแผ่นดิบ

    ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ คืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งผลิตขึ้นเพื่อป้องกัน หรือลดความอันตรายจากการใช้มือสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ โดยป้องกันอันตรายมือเรากับสิ่งของหรือป้องกันสิ่งของจากมือของเรา

  • ถุงมือไนไตรกับกระบวนการแปรรูปสุกร

    สุกร (swine) ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญมากในประเทศไทย ชาวไทยบริโภคสุกรเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังมีปริมาณมากพอที่จะส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้แก่กระเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย และการส่งออกสุกรนั้น สร้างรายได้ให้กับผู้เกี่ยวข้องในส่วนต่างๆของ ห่วงโซ่อุปทานนี้ไม่น้อยในแต่ละปี ตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จนถึงผู้ค้าปลีกเนื้อสุกรในตลาด รวมถึงผู้ค้าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคสุกรและการเลี้ยงสุกรอีกด้วย ทั้งนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานอีกประเภทที่เราจะขาดเสียไม่ได้เลย ก็คือผู้ชำแหลและแปรรูปสุกร ซึ่งหากปราศจากขั้นตอนนี้แล้ว เราคงจะไม่มีเนื้อหรือส่วนต่างๆเอาไว้บริโภคเป็นแน่ และกระบวนการนี้มีความซับซ้อนมากกว่าการฆ่าและชำแหละเป็นชิ้นๆ การชำแหละและแปรรูปสุกรที่ถูกต้อง จะต้องคำนึงถึงสุขอนามัยของผู้บริโภคและธรรมาภิบาลในการดูแลสัตว์อย่างถูกต้องตามหลักการและมาตรฐานอื่นๆที่จำเป็นอีกด้วย ปัจจุบันมีโรงงานผลิตและแปรรูปสุกรจำนวนมากกระจายอยู่ตามภาคต่างๆ โดยหลักการแล้วเราอาจสงสัยว่าโรงงานหรือกระบวนการแปรรูปสุกรที่มีคุณภาพนั้นเป็นอย่างไร กระบวนการแปรรูปสุกร ก่อนที่เราจะนำสุกรมาผ่านการแปรรูป เราต้องควบคุมคุณภาพเนื้อสุกรตั้งแต่เริ่มต้น ต้องเริ่มตั้งแต่การผสมพันธุ์ โดยในปัจจุบันจะใช้การผสมเทียม ฉีดน้ำเชื้อเข้าไปที่ตัวแม่พันธุ์ และรอจนกระทั่งแม่สุกรคลอดลูกสุกรออกมา ในคราวหนึ่งจะคลอดประมาณ 10 ตัว หลังจากที่ลูกสุกรอยู่กับแม่สุกรไประยะหนึ่ง ก็จะแยกตัวลูกออกมาเลี้ยงในโรงอนุบาลลูกสุกรต่างหาก จนลูกสุกรเติบโตได้ขนาดที่เหมาะสมแล้ว ก็จะส่งไปโรงขุนเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ได้น้ำหนักที่ต้องการ เมื่อได้น้ำหนักที่ต้องการแล้ว ซึ่งปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณตัวละ 100 กิโลกรัม ก็จะทำการขายสุกรนั้นออกไปให้แก่โรงชำแหละ

  • ถุงมือแพทย์: ดีอย่างไร

    คุณผู้อ่านครับ สมมุติว่าวันนี้คุณได้งานใหม่ ต่ำแหน่งใหม่ หน้าที่ใหม่ และหน้าที่นี้คุณต้องเรียนรู้เรื่องถุงมือยาง เพราะคุณต้องสวมถุงมือแพทย์ตลอดเวลา คุณทราบไหมครับว่าถุงมือแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นถุงมือยางธรรมชาติ หรือถุงมือไนไตรก็ดีมีใช้กันมานานแล้ว โดยเฉพาะถุงมือแพทย์มีการใช้มาร่วมๆ 100 ปีแล้ว และสมัยนั้นก็มีการใช้ถุงมือกันทั่วๆไป (คล้ายปัจจุบันนี่แหละครับ) ถุงมือยางธรรมชาติ (Latex gloves) เป็นสิ่งที่ปกป้องมือคุณจากอันตรายต่างๆ ในหลายๆด้าน ได้อย่างดีเลยครับ ไม่ว่าคุณจะทำงานในโรงพยาบาล คลีนิค ที่ต้องสำผัสกับคนไข้ ห้องแลปทางการแพทย์ หรือแม้ว่า ถ้าคุณไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม คุณอาจต้องใช้ถุงมือแพทย์ หรือถุงมือธรรมชาติในไลน์การผลิต หรือในห้องแลป ผมเชื่อว่าหลายๆครั้ง คุณคงถามตัวเองว่า เอ…ฉันจะสวมถุงมือแบบไหนเพื่อป้องกันดี? ถุงมือแต่ละประเภทถูออกแบบมาใช้ในงานที่แตกต่างกันครับ งานหนัก งานเบา งานที่ควรใช้ถุงมือที่ทนทาน หรือบาง หรือหนา การเลือกใช้ถุงมือที่ถูกต้อง เป็นเป็นการป้องกันมือและช่วยในการทำงานได้ดีที่สุด ถุงมือยางธรรมชาติมีข้อดีคือมีความยืดหยุ่นมากกว่าถุงมือชนิดอื่น เนื่องจากเป็นถุงมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทำงานเหมือนกับมือเปล่ามากที่สุด แต่ก็สามารรถป้องกันมือเราจากเชื้อโรคและสารเคมีได้อย่างดีเยี่ยม คุณสมบัติเด่นของถุงมือยาง ชนิดถุงมือแพทย์คือ มีความยืดหยุ่น คล่องตัว สวมได้ทั้งซ้ายและขวา คุณสามารถสวมใส่ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาดูเลยว่า มันเป็นข้างไหน ซ้ายหรือขวา มันพอดีกับมือไหม (เพราะมันมีความยืดหยุ่นในตัว) ปัจจุบันมีร้านที่จำน่ายถุงมือแพทย์ราคาถูก โดยมีจำหน่ายถุงมือหลายชนิดให้เลือกมากมาย…

  • ถุงมือแพทย์ไม่มีแป้ง:ควรใช้หรือไม่

    ถุงมือแพทย์ไม่มีแป้ง จะมีก่อให้เกิดการแพ้แป้งแก่ผู้สวมใส่ แต่การที่ไม่มีแป้ง จะทำให้สวมถุงมือยากขึ้น บทความนี้เราจะรู้ว่าควรใช้ถุงมือชนิดไม่มีแป้งหรือไม่